คอลัมน์ “ไข่มุกดำ”: คอลัมนิสต์ นสพ.เดลินิวส์ และฮอตสกอร์
www.facebook.com/khaimukdam
คันตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับว่า จะเขียนเรื่อง “ลิเวอร์พูล” เฉพาะอย่างยิ่งการทำประตูที่ “พิเศษ” ที่สุดในฤดูกาลตามความรู้สึกของผม
ซึ่งเป็นแฟนหงส์แดง และอาจมีลำเอียงเล็กน้อยนะครับ (แฮ่ม!)
ผมชอบประตูตีเสมอนิวคาสเซิล 1-1 นาทีที่ 67 โดย หลุยส์ ซัวเรซ ครับ
เพราะภาษาฟุตบอลคือ หัวหอกอุรุกวัยโชว์ Co-ordination ของร่างกาย
หรือความสัมพันธ์ของอวัยวะได้ครบถ้วยกระบวนความดีจริง
ตามองบอลที่ลอยมา พร้อม ๆ กับชำเลืองดู ทิม ครูล และเหลือบมอง โคลอชชินี่
ก่อนจะพักอกลงพื้น และแตะหลบนายทวารทีมชาติดัตช์ก่อนแปรเข้าไปแบบนิ่ม ๆ
ครับ เกมนี้เป็นฟุตบอลนัดที่ดาวเตะวัยเบญจเพศเล่นได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้
และ “ทำลาย” กองหลังร่วมทวีปจากอาร์เจนติน่า โคลอชชินี่ จน “เสียบอล”
สุดท้ายยังเสียรูปมวยด้วยการ “ตบะแตก” คิดไปย่ำซัวเรซ
แต่เปลี่ยนใจกลางอากาศเลยแค่ถาก ๆ ทว่ากรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
เลือกตัดสินจาก “เจตนา”
โคลอชชินี่ หนึ่งในกองหลังที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาลนี้จึงโดนใบแดงแบน 3
นัดตามระเบียบเหมือนกับไม่ใช่กัปตันทีมสาลิดงคนเดิมที่ดูเก็บอารมณ์ได้ดี
กว่านี้
ปัญหา คือ ด้วยระบบการเล่น “หอกเดี่ยว”
และซัวเรซเป็นเสมือนทุกอย่างของทีมยิ่งกว่า เมสซี่ เป็น “หัวใจ”
ของบาร์เซโลน่า (เพราะ “บาร์ซ่า” ยังมีดาราระดับโลกอีกหลายคนประดับทีม)
หัวหอกที่ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะซื้อเสริมทีมเดือนมกราคมจะมี “บทบาท” อย่างไร?
เป็นตัวสำรองรอเสริม? หรือจะเล่นด้านขวา หรือซ้ายเหมือน ฟาบิโอ บอรินี่ ตอนก่อนเจ็บ!?
ประเด็นนี้น่าสนใจนะครับ เพราะใคร ๆ ก็พูดกันแต่
ลิเวอร์พูลต้องซื้อหอกเพิ่ม แต่ด้วย “ปรัชญา” และวิธีการทำทีมชนิดไม่มี
“แพลน B, C หรือ D”
แพลนเดียวของ “บีร็อดส์” จะรองรับหอกคนใหม่ไม่ว่าใครได้อย่างไร?
ไม่นับประเด็นที่ผมไม่เคยเชื่อในปรัชญาการเล่น “แพลนเดียว”
ว่าจะประสบความสำเร็จได้ หากทีมนั้นไม่ใช่ “ต่างดาว” อย่างบาร์ซ่า
หรือทีมชาติสเปน ยุคปัจจุบันครับ
(ข้อมูลจาก นสพ.ฮอตสกอร์ คอลัมน์ “กีฬาพาคุย” โดย “ไข่มุกดำ” ฉบับขาย 8 พ.ย. 55)
ที่มา http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=707066